หน้าเว็บ

วันพุธที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2555

ประวัติ GTH


GTH เป็นบริษัทผลิตหนังที่ผมชื่นชอบที่สุด เรียกได้ว่าดูหนังเค้าตั้งแต่เรื่องเลยทีเดียวครับ แล้วก็ชอบมาตั้งแต่นั้น ถึงแม้หนังที่เค้าทำจะไม่ได้ประสบความสำเร็จทุกเรื่อง แต่หลายๆเรื่องต้องยอมรับในคุณภาพจริงๆ หนังส่วนใหญ่ของ GTH จะสะท้อนสังคมได้ตรงประเด็น มีข้อคิดแอบแฝง นอกจากสนุกยังได้ประโยชน์ด้วย เรียกได้ว่าเป็นต้นแบบให้หนังไทยยุคใหม่เลยทีเดียวกับ ผมจึงลองหาประวัติของบริษัทมาแชร์กันครับ

ประวัติ

จีเอ็มเอ็ม ไท หับ หรือที่นิยมเรียกตามตัวย่อว่า จีทีเอช เป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายภาพยนตร์ไทย เป็นค่ายหนังในเครือ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ มุ่งเน้นสร้างภาพยนตร์ไทย อย่างครบวงจร การจัดการที่มีมาตรฐานสากล, ผลประโยชน์ที่เป็นธรรมต่อคนทำงานและพร้อมที่จะดูแล โดยยึดหลัก 3 ประการคือ “สดใหม่-คุณภาพ-จริงใจ” ซึ่งทั้งสามประการเปรียบเสมือนคุณลักษณะ ของทั้งสามบริษัทที่มีมาช้านาน โดยได้วางเป้าผลิตหนังไทยใน “กระแสหลัก” และเป็นหนังที่สร้างความพึงพอใจให้กับมวลชน

การรวมตัวของบริษัท

จีเอ็มเอ็ม ไท หับ หรือ จีทีเอช เกิดจากการร่วมทุนของ 3 บริษัท คือ จีเอ็มเอ็ม พิคเจอร์, ไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ของ วิสูตร พูลวรลักษณ์ และ หับ โห้ หิ้น ฟิล์ม (ในเครือแกรมมี่) ของ จิระ มะลิกุล โดยชื่อบริษัทใหม่ มาจากชื่อต้น และอักษรย่อหน้าชื่อของบริษัทร่วมทุนทั้งสาม ด้วยทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท ได้แก่ G (51%) T (30%) และ H (19%)

งานสร้างภาพยนตร์

จีทีเอชมุ่งเน้นสร้างหนังไทยในระบบ “สตูดิโอ” ที่ครบวงจร, มีระบบการทำงานที่ชัดเจน, การจัดการที่มีมาตรฐานสากล, ผลประโยชน์ที่เป็นธรรมต่อคนทำงานและพร้อมที่จะดูแลและให้ความช่วยเหลือกับ FILM MAKER ทั้งเก่าและใหม่ อย่างใกล้ชิด โดยยึดหลัก 3 ประการคือ “สดใหม่-คุณภาพ-จริงใจ” ซึ่งทั้งสามประการเปรียบเสมือนคุณลักษณะ ของทั้งสามบริษัทที่มีมาช้านาน โดย GTH ได้วางเป้าผลิตหนังไทยใน “กระแสหลัก” และเป็นหนังที่สร้างความพึงพอใจให้กับมวลชน เป็นค่ายหนังไทยที่ได้รับความนิยมอย่างมากเป็นอันดับหนึ่ง จากคนในสังคมเมือง และกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีหัวคิดทันสมัย โดยการรวมตัวของทั้งสามบริษัท เกิดขึ้นหลังจากปี พ.ศ. 2546 เมื่อทั้งหมดร่วมงานสร้างภาพยนตร์ แฟนฉัน และประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง

ที่มา - (wiki)



ภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายของแต่ละบริษัท

Grammy 
- ผลิต 15 ค่ำ เดือน 11 โดยคุณจิระ มะลิกุล
- ผลิต แฟนฉัน ในนามของทั้ง 3 บริษัท
- ผลิต ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ เอง แต่ให้ GTH เป็นผู้จัดจำหน่าย
ไท เอนเตอร์เทนเมนต์
- ผลิต สตรีเหล็ก
ผลิต แฟนฉัน ในนามของทั้ง 3 บริษัท
- ผลิต หมอเจ็บ เป็นเรื่องสุดท้ายในปี 2547
Hub Ho Hin
ผลิต แฟนฉัน ในนามของทั้ง 3 บริษัท
- ผลิต ไอ้ฟัก ในปี 2547 แต่ก็ได้รับการสนับสนุนจากทั้ง 3 บริษัทเช่นกัน


ผลงานภาพยนตร์

1. My Girl แฟนฉัน ( 3 ตุลาคม 2546 ) ทำรายได้ 137.7 ล้านบาท
2. Shutter ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ ( 9 กันยายน 2547 ) ทำรายได้ 120 ล้านบาท
3. Pattaya Maniac สายล่อฟ้า ( 7 ตุลาคม 2547 ) ทำรายได้ 75 ล้านบาท
4. M.A.I.D (Mission Almost Impossible Done) แจ๋ว ( 23 ธันวาคม 2547 ) ทำรายได้ 30 ล้านบาท
5. The Tin Mine มหา'ลัย เหมืองแร่ ( 26 พฤษภาคม 2548 ) รายได้ 30 ล้านบาท
6. Oops! There' Dad วัยอลวน 4 ตั้ม โอ๋ รีเทิร์น ( 28 กรกฎาคม 2548 ) ทำรายได้ 50 ล้านบาท
7. Dear Darkanda เพื่อนสนิท ( 6 ตุลาคม 2548 ) ทำรายได้ 80 ล้านบาท
8 Dorm เด็กหอ ( 23 กุมภาพันธ์ 2549 ) ทำรายได้ 50 ล้านบาท
9. Metrosexual แก๊งชะนีกับอีแอบ ( 13 กรกฎาคม 2549 ) ทำรายได้ 49 ล้านบาท
10. See How They Run โกยเถอะโยม ( 3 สิงหาคม 2549 ) ทำรายได้ 70 ล้านบาท
11. Seasons Change เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ( 31 สิงหาคม 2549 ) ทำรายได้ 71.8 ล้านบาท
12. Lucky Loser หมากเตะ รีเทิร์น ( 19 ตุลาคม 2549 ) ทำรายได้ 10 ล้านบาท
13. The Possible เก๋า เก๋า ( 4 ธันวาคม 2549 ) ทำรายได้ 35 ล้านบาท
14. Final Score 365 วัน ตามติดชีวิตเด็กเอ็นท์ ( 1 กุมภาพันธ์ 2550 ) ทำรายได้ 25 ล้านบาท
15. Alone แฝด ( 29 มีนาคม 2550 ) ทำรายได้ 67.5 ล้านบาท
16. Kung Fu TootSie ตั๊ดสู้ฟุด ( 19 กรกฎาคม 2550 ) ทำรายได้ 80 ล้านบาท
17. The Bedside Detective สายลับจับบ้านเล็ก ( 6 กันยายน 2550 ) ทำรายได้ 70 ล้านบาท
18. Body บอดี้ ศพ#19 ( 4 ตุลาคม 2550 ) ทำรายได้ 30 ล้านบาท
19. Handle Me With Care กอด ( 21 กุมภาพันธ์ 2551 ) ทำรายได้ 6 ล้านบาท
20. Hormones ปิดเทอมใหญ่ หัวใจว้าวุ่น ( 20 มีนาคม 2551 ) ทำรายได้ 80 ล้านบาท
21. Phobia สี่แพร่ง ( 24 เมษายน 2551 ) ทำรายได้ 85 ล้านบาท
22. The Last Moment รัก/สาม/เศร้า ( 19 มิถุนายน 2551 ) ทำรายได้ 60 ล้านบาท
23. Coming Soon โปรแกรมหน้า วิญญาณอาฆาต ( 30 ตุลาคม 2551 ) ทำรายได้ 50 ล้านบาท
หวานขม BITTERSWEET BOYdPOD
24. Best In Time ความจำสั้น แต่รักฉันยาว ( 5 มีนาคม 2552 ) ทำรายได้ 49 ล้านบาท
25. Dear Galileoหนีตามกาลิเลโอ ( 23 กรกฎาคม 2552 ) ทำรายได้ 30 ล้านบาท
26. Phobia2 ห้าแพร่ง ( 9 กันยายน 2552 ) ทำรายได้ 114 ล้านบาท
27. Bangkok Traffic Love Story รถไฟฟ้า มาหานะเธอ ( 15 ตุลาคม 2552 ) ทำรายได้ 147 ล้านบาท
28. The little Comedian บ้านฉัน..ตลกไว้ก่อน (พ่อสอนไว้) ( 11 มีนาคม 2553 ) ทำรายได้ 42 ล้านบาท
29. Hello Stranger กวน มึน โฮ ( 19 สิงหาคม 2553 ) ทำรายได้ 125ล้านบาท
30. Cool Gel Attacks กระดึ๊บ (2 ธันวาคม 2553) ทำรายได้ 14 ล้านบาท
31. Suck Seed ห่วยขั้นเทพ (17 มีนาคม 2554) ทำรายได้ 80 ล้านบาท
32. Lad Da Land ลัดดาแลนด์ (28 เมษายน 2554) ทำรายได้ 117 ล้านบาท
33. Tang Yaek Wat Jai ทางแยกวัดใจ (15 ธันวาคม 2554)ฉายเฉพาะในเครือเมเจอร์เท่านั้น
34. Top Secret วัยรุ่นพันล้าน (20 ตุลาคม 2554) ทำรายได้ 38 ล้านบาท
35. ATM เออรัก เออเร่อ (19 มกราคม 2555) ทำรายได้ 152.5 ล้านบาท
36. รัก 7 ปี ดี 7 หน (2555)
37. เดอะ เคาท์ดาวน์ (2555)
รายได้มากที่สุดและน้อยที่สุด

มากที่สุด
1. ATM เออรัก เออเร่อ (19 มกราคม 2555) ทำรายได้ 152.5 ล้านบาท
2. รถไฟฟ้า มาหานะเธอ ( 15 ตุลาคม 2552 ) ทำรายได้ 147 ล้านบาท
3. แฟนฉัน ( 3 ตุลาคม 2546 ) ทำรายได้ 137.7 ล้านบาท
4. กวน มึน โฮ ( 19 สิงหาคม 2553 ) ทำรายได้ 125ล้านบาท
5. ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ ( 9 กันยายน 2547 ) ทำรายได้ 120ล้านบาท
6. ลัดดาแลนด์ (28 เมษายน 2554) ทำรายได้ 117 ล้านบาท
7. ห้าแพร่ง ( 9 กันยายน 2552 ) ทำรายได้ 114 ล้านบาท

น้อยที่สุด 8 เรื่อง
1. กอด ( 21 กุมภาพันธ์ 2551 ) ทำรายได้ 6 ล้านบาท
2. หมากเตะ รีเทิร์น ( 19 ตุลาคม 2549 ) - ทำรายได้ 10 ล้านบาท
3. กระดึ๊บ (2 ธันวาคม 2553) - ทำรายได้ 14 ล้านบาท
4. Final Score 365 วัน ตามติดชีวิตเด็กเอ็นท์ ( 1 กุมภาพันธ์ 2550 ) - ทำรายได้ 25 ล้านบาท
5. แจ๋ว ( 23 ธันวาคม 2547 ) - ทำรายได้ 30 ล้านบาท
5. มหา'ลัย เหมืองแร่ ( 26 พฤษภาคม 2548 ) - รายได้ 30 ล้านบาท
5. บอดี้ ศพ#19 ( 4 ตุลาคม 2550 ) - ทำรายได้ 30 ล้านบาท
5. หนีตามกาลิเลโอ ( 23 กรกฎาคม 2552 ) - ทำรายได้ 30 ล้านบาท

หนังที่เกิน 100 ล้าน

มีทั้งหมด 7 เรื่อง

1. ATM เออรัก เออเร่อ (19 มกราคม 2555) ทำรายได้ 152.5 ล้านบาท
2. รถไฟฟ้า มาหานะเธอ ( 15 ตุลาคม 2552 ) ทำรายได้ 147 ล้านบาท
3. แฟนฉัน ( 3 ตุลาคม 2546 ) ทำรายได้ 137.7 ล้านบาท
4. กวน มึน โฮ ( 19 สิงหาคม 2553 ) ทำรายได้ 125ล้านบาท
5. ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ ( 9 กันยายน 2547 ) ทำรายได้ 120ล้านบาท
6. ลัดดาแลนด์ (28 เมษายน 2554) ทำรายได้ 117 ล้านบาท
7. ห้าแพร่ง ( 9 กันยายน 2552 ) ทำรายได้ 114 ล้านบาท


นักแสดงนำทั้งหมด

1. ชาลี ไตรรัตน์ (แน็ค) |
2. โฟกัส จีระกุล (โฟกัส) |
3. เฉลิมพล ทิฆัมพรธีรวงศ์ (แจ๊ค) |
4. อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม |
5. ณัฐฐาวีรนุช ทองมี (จ๋า) |
6. ชูศักดิ์ เอี่ยมสุข(โหน่ง) |
7. สมชาย เข็มกลัด(เต๋า) |
8. พิชญ์นาฏ สาขากร(เมย์) |
9. อรจิรา แหลมวิไล(แป้ง) |
10. พรชิตา ณ สงขลา(เบนซ์) |
11. พิชญะ วัชจิตพันธ์ จาก มหาลัยเหมืองแร่ |
12. ดลยา หมัดชา จาก มหาลัยเหมืองแร่ |
13. สนธยา ชิตมณี จาก มหาลัยเหมืองแร่ |

ใคร กี่เรื่อง เรื่องอะไรบ้าง(รอข้อมูล)

ผู้กำกับ

1. นิธิวัฒน์ ธราธร (ต้น) |
2. ทรงยศ สุขมากอนันต์ (ย้ง) |
3. คมกฤษ ตรีวิมล (เอส) |
4. วิทยา ทองอยู่ยง (บอล) |
5. วิชชา โกจิ๋ว (เดียว) |
6. อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม (ปิ๊ง) |
7. บรรจง ปิสัญธนะกูล |
8. ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ |
9. ยุทธเลิศ สิปปภาค |
10. ยงยุทธ ทองกองทุน |
11. จิระ มะลิกุล |

ใคร กี่เรื่อง เรื่องอะไรบ้าง(รอข้อมูล)

บุคคลสำคัญ(รอข้อมูล)

;

ละครซิตคอม


เนื้อคู่ประตูถัดไป (2551-2552) 2 ซีซั่น 35 ตอน ช่อง 9
สายลับเดอะซีรีส์ กับ 24 คดีสุดห้ามใจ (2552) 26 ตอน ช่อง 9
เนื้อคู่อยากรู้ว่าใคร (4 มกราคม 2553-27 ธันวาคม 2553) 49 ตอน ททบ. 5
หมวดโอภาส ยอดมือปราบคดีพิศวง (2554) 26 ตอน ช่อง 9
หมวดโอภาส ยอดมือปราบคดีพิศวง ซีซั่น2 (2555)

หนังสั้น(รอข้อมูล)

;

ช่องเคเบิลทีวี

มีช่องเดียวคือ เพลย์ แชนแนล ออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 (ทดลองการออกอากาศ) และวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 (ออกอากาศอย่างเป็นทางการ) ซึ่งจะออกอากาศพร้อมกับช่อง เจเคเอ็น (JKN Channel) และ เจเอสแอล แชนแนล (JSL Channel)

อื่นๆ

ยังมีบริการบัตรเดบิตชื่อว่า GTH is me โดยร่วมมือกับ ธนาคารกสิกรไทย ใช้เป็นบัตรแทนเงินสดแล้วยังมีสิทธิประโยชน์ไว้ให้สมาชิกอีกมากมายเช่นชมภาพยนตร์รอบพิเศษของจีทีเอช, จับจ่ายใช้สอยด้วยบัตรแทนเงินสดได้สะดวกในร้านค้าที่รับบัตร Visa ก่อนฉายจริง และรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ เป็นต้น(wiki

ไม่มีความคิดเห็น: